9125 จำนวนผู้เข้าชม |
Filler
Q: ฟิลเลอร์ คืออะไร
A: ฟิลเลอร์ มาจากคำว่า Fill ที่แปลว่าเติม ฟิลเลอร์จึงเป็นคำรวมๆ ที่ใช้เรียกสารเติมเต็มทุกชนิดในสมัยนี้ เช่น ไขมัน (Fat), ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic acid) อันนี้เป็นอันที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นสารที่ทำเลียนแบบผิวหนังเราตามธรรมชาติ ปลอดภัย โอกาสแพ้น้อยมาก ไม่ไหล ไม่ย้อย ไม่ผิดรูปเวลาฉีดไป และที่สำคัญ คือสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ
Q: ควรเลือก ฟิลเลอร์แบบไหน
A: ฟิลเลอร์ แบ่งได้เป็น 2 แบบหลักๆ คือแบบ ถาวร และไม่ถาวร ในปัจจุบันเราจะแนะนำให้คนไข้เลือกแบบที่เป็นไม่ถาวร หรือเป็นตัว Hyaluronic acid ซึ่งมีความปลอดภัย สลายได้เองตามธรรมชาติ และแม้ฉีดไปแล้วไม่ชอบ ก็สามารถสลายได้โดยใช้แค่ตัวยาฉีเข้าไปเพื่อสลาย แต่ไม่ต้องขูดสลาย เหมือนซิลิโคนเหลวสมัยก่อน
Q: กลัวไหล เบี้ยว ผิดรูป หน้าแปลก
A: ส่วนมากผลข้างเคียงต่างๆเหล่านี้จะมาจาก ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่รู้ที่มา ที่ไป หรือเป็นตัว ซิลิโคนเหลว ไม่ใช่ Hyaluronic acid อย่างที่บอกไปค่ะ ซิลลิโคนเหลว ไม่สลายเอง พออยู่นานไป สามารถไหล ผิดรูปได้ ไม่มียาสลาย ต้องขูดออกเท่านั้น อันนี้ต้องระวังมากๆ บางทีหมอกระเป๋าจะนำมาใช้ เพราะราคาถูก
Q: ฉีดแล้วจะเป็นก้อน เป็นลำ เห็นชัด ดูปลอมไหม
A: ถ้าเลือกรุ่นฟิลเลอร์ อย่างถูกต้อง เลือกเนื้อเหมาะสมกับบริเวณที่เป็นปัญหา ฉีดถูกชั้น ถูกบริเวณ จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ไม่เป็นลำ อย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ แพทย์ที่จะเป็นผู้ฉีดให้จะเป็นคนเลือก และวางแผนการรักษาให้ในแต่ละเคส เนื่องจากความแตกต่างกันในแต่ละเคสค่ะ ยกตัวอย่าง หากเราต้องการฉีดในบริเวณที่ตื้น จะต้องเลือกฟิลเลอร์ตัวที่เนื้อไม่หนักเกิน โมเลกุลเล็ก จะทำให้ไม่จับตัวกันเป็นก้อน แต่ข้อเสีย คือจะไม่ได้อยู่ได้นานมาก
Q: ฉีดแล้วต้องขูดออกไหม
A: ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ผ่านอย.ไทยทุกตัวตอนนี้ จะสลายไปได้เองตามระยะเวลาเลยค่ะ แต่หากอยากให้สลายก่อน ก็ไม่จำเป็นตัวขูด มีตัวยาที่สามารถฉีดเข้าไปแล้วสลายได้ค่ะ
Q: ฟิลเลอร์สะสมไหม มีสารตกค้างไหม
A: ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ผ่านอย.ไทยทุกตัวตอนนี้ จะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีการสะสม ไม่ตกค้างค่ะ ไม่มีผลเสียในระยะยาวแน่นอนค่ะ
Q: ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
A: แล้วแต่รุ่นที่ฉีดไปค่ะ ถ้าตัวที่ผ่านอย.ไทย นานสุดตอนนี้ คือ Juvederm Voluma 18-24 เดือน
พวกตัวที่ใช้เติมใต้ตา จะอยู่ได้นานน้อยสุด เนื่องจากความหนาแน่นต่ำ จับตัวเป็นก้อนน้อย จะอยู่ได้ 6-12 เดือน แล้วแต่บุคคล
Q: หลังฉีดฟิลเลอร์ไป กี่วันจึงจะเห็นผล
A: ตัวผลจริงๆแล้ว หลังฉีดทันทีก็เห็นผลเลยค่ะ พอตัวเนื้อฟิลเลอร์เข้าไปเติมในส่วนที่ขาดไป ก็จะสามารถเห็นได้ทันทีว่าเต็มขึ้น แต่พอวันรุ่งขึ้นอาจมีอาการบวมเข็มมากกว่าวันที่ฉีดเล็กน้อย หลังจากนั้นจะค่อยๆ ลดบวมลงไป จนเข้าที่ตอนประมาณ 1-2 สัปดาห์
Q: แต่งหน้าได้ไหม หลังฉีดฟิลเลอร์
A: สามารถแต่งหน้าได้หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ ดีที่สุด คือ 24 ชม.ค่ะ เนื่องจากรูเข็มจะปิดตอนครบ 24 ชม. แต่หากถ้าจำเป็น แนะนำให้หลีกเลี่ยงพวก รองพื้น หรือ ครีมต่างๆ บริเวณรูเข็มเข้าค่ะ
Q: บวม เจ็บ ช้ำ กี่วัน
A: วันรุ่งขึ้นหลังฉีดไป อาจจะมีอาการบวมขึ้นได้ในบางคน ในคนที่ผิวบาง หรือฉีดบริเวณปาก (อันนี้บวมแทบทุกคน) จะบวมมากสุด คือวันนี้ เนื่องจากระบมเข็มที่หมอจิ้มไปค่ะ จากนั้นจะค่อยๆยุบบวมลงเรื่อยๆ ยุบสุดตอน 2 สัปดาห์ แต่ส่วนมาก 3-5 วันก็หายแล้วค่ะ อาการเจ็บ ระบวมหลังฉีด จะมีได้ มักจะรู้สึกตอนเวลาที่ไปสัมผัสหน้า เช่นทาครีม ล้างหน้า หรือในคนที่ฉีดเสริมคางไป อาจจะรู้สึกตึงๆ หน่วงๆ เนื่องจากไปยืดเนื้อคางออก เป็นได้ประมาณ 2-3 วัน แต่ถ้าหากใครมีอาการเจ็บเยอะ บวมเยอะ ช้ำเยอะ ต้องรีบแจ้งแพทย์ และทางคลินิกเลยค่ะ เพื่อช่วยดูแล รอยช้ำส่วนมากจะมีจุดรอยเข็มเข้า ไม่มาก หายไปได้ใน 1-2 สัปดาห์แล้วแต่คน สามารถแจ้งทางคลินิก รับยาลดรอยช้ำได้เลยค่ะ
Q: ฟิลเลอร์เหมาะกับใครบ้าง
A: ฟิลเลอร์เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาหน้าตอบ หน้าขาด volume ดูเหนื่อย ดูโทรมไม่สดชื่น โดยเฉพาะ บริเวณ ใต้ตาโหล ขมับตอบ คางสั้น คางตัด หน้าแก้มแบน สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้อย่างตรงจุดค่ะ
Q: ฉีดบริเวณไหน อันตรายที่สุด
A: บริเวณที่มีรายงานว่าฟิลเลอร์ไปอุดเส้นเลือดนั้น พบบ่อยที่บริเวณ หน้าผาก จมูก แต่อย่างไรก็ตาม ทุกการทำหัตถการย่อมมีความเสี่ยงเสมอค่ะ เพราะฉะนั้น หมอจึงต้องใช้เวลา และความระมัดระวังอย่างสูงที่สุดค่ะ
Q: มีคนแพ้ฟิลเลอร์หรือไม่
A: เคยมีรายงานของคนที่แพ้ฟิลเลอร์ค่ะ มีอาการบวม แดง เจ็บได้ หากคนไข้มีอาการเหล่านี้ให้รีบติดต่อคลินิกรับยาแก้แพ้ และประเมินอีกครั้งว่าควรสลายออกเลย หรือรอได้ค่ะ ต้องดูจากอาการว่าอาการแพ้รุนแรงมากน้อยแค่ไหนค่ะ
แสกน QR Code แอดไลน์ สอบถาม หรือจองคิวได้เลยค่ะ