12472 จำนวนผู้เข้าชม |
สิว เป็นปัญหากวนใจของใครหลายๆคน ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่
หมอจะชอบเปรียบเทียบว่า สิว ก็เหมือนหวัด ช่วงไหนร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนน้อย ก็จะเป็นหวัด สิวก็เช่นกัน ช่วงไหนนอนดึก นอนน้อย เครียด ช่วงประจำเดือน สิวก็บุกหน้าเราทันที เป็นโรคที่ไม่หายขาด แต่พอจะลดโอกาสเกิดได้ค่ะ มารู้ตั้งแต่ต้นทาง ยันปลายทางการรักษาดีกว่าค่ะ
ต้นทาง >>> ปัจจัยการเกิดสิว
แบ่งเป็น ปัจจัยจากภายนอก และจากภายในร่างกาย
ภายนอก เช่น
เครื่องสำอางตกค้าง ครีมที่อุดตัน
PM 2.5 ฝุ่น ละออง มลภาวะต่างๆ
เซลล์ผิวที่ตายแล้ว แต่ไม่ผลัดออกตามปกติ
ภายใน
กรรมพันธุ์ ค่อนข้างมีผลมากในช่วงของวัยรุ่น
ลักษณะผิว คนผิวมันจะมีโอกาสเป็นสิวมากกว่าคนผิวแห้ง แต่ข้อดี คือ คนผิวมันเหี่ยวยากกว่าผิวแห้งน้า
ฮอร์โมน ทุกชนิดมีโอกาสทำให้สิวเกิดได้หมด ไม่เฉพาะแต่ฮอร์โมนเพศ เช่นฮอร์โมนจากความเครียด ก็จะมีผลทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น และผลิตน้ำมันมากขึ้น มีโอกาสอุดตันได้มากขึ้น
พฤติกรรม นอนดึก นอนน้อย นอนไม่พอ เหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อฮอร์โมนความเครียดของเรา แม้เราจะบอกว่าไม่เครียด แต่ร่างกายเราเกิดความเครียดนะจ๊ะ หรือจะเป็น การที่เราชอบจับหน้า แกะเกาใบหน้าต่างๆ เป็นการรบกวนผิว ทำให้เกิดสิวง่ายขึ้นอีกด้วย
ต่อมา มาดูว่าสิวเกิดได้อย่างไร และสิวมีความรุนแรงกี่ขั้น
ต้นกำเนิดของสิวเลยจริงๆ มาจากการที่ปากทางรูขุมขนเราต้องการระบายน้ำมันออกมาอย่างปกติ แต่เมื่อไหร่ที่ปากทางนั้นมันตัน ทำให้น้ำมันระบายออกมาไม่ได้ นั่นแหละ เริ่มเกิดเหตุเลยค่ะ "เกิดการอุดตัน" ทำให้เกิดสิวอุดตันขึ้น เม็ดๆเล็กๆใต้ผิว ลูบๆแล้วผิวไม่เรียบ แต่งหน้าแล้วผิวยังไม่เรียบ
พออุดตันเกิดขึ้นมา รวมกับแบคทีเรียที่ผิวเรา (ซึ่งปกติผิวเราก็มีแบคทีเรียนะคะ แต่พอมันเพิ่มจำนวนขึ้น หรือมีตัวที่ชื่อว่า P. acne เพิ่ม ก็จะทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น) รวมกันปุ๊ป ปังเลยค่ะ กลายเป็น "สิวอักเสบ" บวมๆ เจ็บๆ แดงๆ คันๆ คนไข้จะชอบเรียกว่า “สิวไม่มีหัว” แต่จริงๆ มีหัวนะแต่ซ่อนอยู่ เพราะเนื้อเยื่อที่อักเสบรอบๆสิวอุดตันมันบวม
พอเป็น สิวอักเสบ ร่างกายรับรู้แล้วว่าตรงนี้เกิดการติดเชื้อ ก็เลยไปเรียก เม็ดเลือดขาวในร่างกายมาต่อสู้ ทำให้เกิดการรวมตัวของเม็ดเลือดขาวเยอะขึ้น กลายเป็นขั้นต่อมาของสิว นั่นคือ “สิวหัวหนอง”
จากนั้น กลายเป็น "รอยสิว" ทั้งรอยดำ รอยแดง ขั้นนี้หายยากสุดแล้วค่ะ
การรักษาสิว ที่ต้นเหตุเลยคือ จริงๆ ต้องหยุดปัจจัยต่างๆ แต่ถ้าบางอย่าง เช่นฮอร์โมน เราก็หยุดไม่ได้จริงๆ เราก็ต้องดูขั้นถัดมา นั่นคือ
หยุดที่ต่อมไขมัน
อันนี้จะต้องเป็นพวกยากินที่ลดความมันบนใบหน้า เช่น โลแอคโนติน โลแอคคิวเทนต่างๆ จะไปช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน หน้าแห้งลง แต่มีผลข้างเคียงคือ ปากแห้ง ตาแห้งไปด้วย และห้ามตั้งครรภ์ระหว่างที่กินเป็นอันขาดค่ะ เพราะมีผลทำให้ทารกในครรภ์พิการได้เลย
หยุดการอุดตัน
หยุดการ แคะ แกะ เกา ลูบ ถู เช็ดแรงๆบนผิว และใช้ยายาจำพวกละลายหัวสิว เพื่อลดการอุดตันที่จะเกิดขึ้น เป็นการป้องกันก่อนเกิดอีกทางหนึ่ง
การกดสิว ก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้ลดการอุดตันได้ แต่ตัดวงจร ไม่ให้สิวอุดตันกลายไปเป็นสิวอักเสบค่ะ
แต่การกดสิวก็ถือเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ เพราะฉะนั้น เราต้องทายาสิวไปด้วยเพื่อป้องกันการอุดตันที่จะเปิดขึ้นใหม่ค่ะ
หยุดเชื้อแบคทีเรีย
การกินยา หรือทายาฆ่าเชื้อจะช่วยลดเชื้อแบคทีเรียได้ และส่งผลให้ลดสิวอักเสบได้อีกต่อนึงค่ะ
หยุดการอักเสบ
ในทางการแพทย์ เราจะใช้การฉีดสิว เพื่อหยุดการอักเสบ ลดการอักเสบ เพื่อช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น และพอมันยุบแล้ว เราก็จะสามารถเอาตัวสาเหตุจริงๆของการอักเสบออกมาได้ นั่นคือ ตัวหัวอุดตันค่ะ เพราะถ้าไม่เอาออก บางครั้ง พอยุบไปแล้ว มันจะอักเสบ บวมซำ้ที่เดิมได้ เพราะว่าตัวต้นเหตุจริงๆ ยังไม่ออกไปค่ะ
หลายคนถามว่า ยาที่ใช้ฉีดสิว เป็น “สเตียรอยด์” ใช่หรือไม่ ขอตอบเลยว่าใช่นะคะ แต่ต้องใช้ให้ถูกปริมาณ ถูกความเข้มข้น จะไม่เปิดผลเสียข้างเคียงแน่นอนค่ะ และปริมาณที่ใช้ น้อยมากๆๆๆเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวสะสมในร่างกาย หรือ ส่งผลต่อระบบอื่นๆในร่างกายนะคะ
มาถึงการรักษานะคะ
หมอแบ่งง่ายๆเป็นยากิน กับยาทา และทำหัตถการ
ยากินเนี่ย เราจะเก็บไว้ใช้ในคนไข้ที่เป็นเยอะ หรือเรื้อรังค่ะ
แบ่งยากินได้อีก 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
ยากลุ่มลดการทำงานของต่อมไขมัน กลุ่มนี้ก็จะไปทำให้การผลิตน้ำมันลดลง ลดการอุดตันตามมา
ยาฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบของสิว ลดเชื้อแบคทีเรีย
ยาทา
แบ่งเป็น ยาละลายหัวสิว ยาฆ่าเชื้อ และยาลดรอย
หลักๆ ยาละลายหัวสิว จะช่วยป้องกันการอุดตันที่จะเกิดขึ้นใหม่ เพราะฉะนั้นบางทีจะมีบางคนที่รู้สึกว่า สิวขึ้นแล้วทายาละลายหัวสิว หัวสิวไม่เห็นหายไปเลย ถึงมันจะชื่อยาละลายหัวสิว แต่มันไม่ได้ละลายให้หัวสิวนั้นหายไปได้ค่ะ แต่จะทำให้ปากทางไม่อุดตัน ลดการเกิดสิวใหม่
ตัวยาละลายหัวสิวจึงเป็นตัวสำคัญในการรักษาสิว และช่วย maintain ให้สิวกลับมาได้ยากขึ้นค่ะ
ยาฆ่าเชื้อ
ช่วยในการลดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิว ป้องกันไม่ให้สิวอุดตันกลายไปเป็นสิวอักเสบค่ะ พยายามอย่าใช้ตัวเดียวเดี่ยวๆ โดยที่ไม่ใช้ตัวละลายหัวสิว เพราะอาจจะทำให้เกิดการดื้อยาได้ แล้วจะไม่ได้ผลค่ะ
ยาลดรอย
ตรงตัวเลยค่ะ ลดรอยดำ รอยแดง สามารถใช้ควบคู่ไปกับการรักษาสิวได้เลย มีหลายตัว บางตัวมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้ออ่อนๆได้ด้วยค่ะ
มาถึงส่วนสุดท้าย คือหัตถการต่างๆ
ขอแบ่งง่ายๆเป็น การกดสิว ฉีดสิว ทรีทเมนต์ เลเซอร์
กดสิว ช่วยให้ สิวที่มีอยู่ ณ เวลานั้นๆ ออกไปเร็วขึ้น ตัดวงจร ไม่ให้สิวอุดตันพัฒนากลายไปเป็นสิวอักเสบ และการกดสิวอย่างถูกวิธี จะทิ้งรอยน้อยกว่า รอยหายเร็วกว่ากดเอง หรือปล่อยให้หายเอง แน่นอนค่ะ
ฉีดสิว ช่วยลดการอักเสบของสิว เพราะยิ่งมีการอักเสบมากเท่าไหร่ รอยดำ รอยแดงก็จะตามมามากเท่านั้น และรอยที่แหละค่ะ ที่หายยากกว่าสิว
ทรีทเมนต์ มีหลายอย่างที่ช่วยสิว เช่น การผลัดเซลล์ผิว ฉายแสง LED เพื่อฆ่าเชื้อสิว ผลักวิตามินเพื่อบำรุงผิวหน้า ลดรอยดำ ใดๆ ทั้งหมดนี้ คือการรักษาเสริม ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น ห้ามทิ้งการรักษาหลัก คือ การทายา กดสิว ฉีดสิวค่ะ
เลเซอร์ ส่วนมากเลเซอร์จะช่วยเรื่องรอยที่เกิดจากสิว แต่ก็มีเลเซอร์บางประเภทที่จะช่วยให้ลดความมันบนใบหน้าได้ ลดสาเหตุการเกิดสิว และยังมีเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ที่สามารถช่วยเปิดหัวสิวเพื่อให้กดออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
แสกน QR Code แอดไลน์ สอบถาม หรือจองคิวได้เลยค่ะ